ดูดไขมัน
- Service และบริการ
- 5月7日
- 讀畢需時 1 分鐘
已更新:6月16日

การดูดไขมัน (Liposuction) : ปรับรูปร่างเพรียว กระชับสัดส่วนอย่างมั่นใจ
การดูดไขมัน (Liposuction) ซึ่งเป็นวิธีการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีลักษณะคล้ายท่อยาว สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ และก้น ช่วยลดปริมาณไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมัน
การดูดไขมันเป็นการลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษา
ไม่สามารถแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลท์ได้โดยตรง
ไม่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก
ปริมาณไขมันที่ดูดออกในแต่ละครั้งจะถูกจำกัดเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
ผู้ที่ไม่ได้มีภาวะอ้วนโดยรวม
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานมากนัก
ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดได้ยากด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
ผู้ที่มีผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี ซึ่งจะช่วยให้ผิวหลังดูดไขมันเรียบเนียนและหย่อนคล้อยน้อยลง
ขั้นตอนการผ่าตัดดูดไขมัน
แพทย์จะทำการวาดตำแหน่งบนร่างกายที่ต้องการดูดไขมัน
ทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร ในบริเวณที่กำหนด
สอดท่อเรียวยาวขนาด 2 – 5 มิลลิเมตร เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันออก
ท่อดูดไขมันจะเชื่อมต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศหรือเครื่องอัลตราซาวนด์ เพื่อช่วยในการดูดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ
ปริมาณไขมันที่ดูดออกจะขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณไขมันสะสม
หลังการดูดไขมัน แพทย์จะทำการปิดแผล และพันผ้ารัดหรือสวมชุดกระชับบริเวณที่ทำการรักษา
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันอาจไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น
อาจมีอาการชาบริเวณแผลผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมันปริมาณมากเกินไป (พบได้น้อยเนื่องจากแพทย์จะประเมินและควบคุมปริมาณที่เหมาะสม)
อาการปวดแผล (สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด)
การติดเชื้อหรือมีภาวะเลือดออกที่แผลผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลและสุขภาพ)

การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน
เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
แจ้งข้อมูลสุขภาพโดยละเอียด
ปัญหาสุขภาพปัจจุบันและในอดีต
โรคร้ายแรงหรือโรคประจำตัว
ประวัติการผ่าตัดและการได้รับยาระงับความรู้สึก
ปัญหาเกี่ยวกับฟัน (ฟันโยก, ฟันปลอม)
ประวัติการแพ้ยาและแพ้อาหาร
ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การเตรียมพร้อมร่างกาย (สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรือโรคประจำตัว)
การเอกซเรย์
การตรวจเลือด
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม
งดยา ยาบำรุง และสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด และนำยาที่ใช้อยู่มาแจ้งแพทย์
ยาแก้ปวด (บางชนิด)
ยาแอสไพริน
วิตามินดี, วิตามินซี, วิตามินเอ
น้ำมันตับปลา
สมุนไพรต่างๆ
งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือด
งดดื่มสุรา อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
อาบน้ำและสระผมให้สะอาด
งดทาเล็บ
งดน้ำและอาหารตามคำสั่งแพทย์ (ในกรณีดมยาสลบ) เพื่อป้องกันการสำลัก
เตรียมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อความสะดวกในการสวมใส่หลังผ่าตัด
หลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน (สำหรับผู้หญิง)

การดูแลหลังการดูดไขมัน
ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก อาจมีอาการปวดแสบร้อน บวม และรอยช้ำ ซึ่งแพทย์จะสั่งยาแก้ปวดและแนะนำการประคบเย็น
ควรสวมชุดกระชับ (Pressure Garment) อย่างต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับสัดส่วน
อาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 เดือน และผิวหนังที่เป็นคลื่นจะค่อยๆ เรียบขึ้นภายใน 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลและคำแนะนำของแพทย์
ประมาณวันที่ 3 หลังผ่าตัด หากแผลแห้งและไม่มีอาการผิดปกติ สามารถอาบน้ำได้ โดยซับแผลให้แห้ง และทาแป้งบริเวณที่คัน (ห้ามทาที่แผลโดยตรง)
แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด ไม่ควรทายาป้องกันแผลเป็นนูน แต่สามารถนวดเบาๆ บริเวณที่มีรอยช้ำได้
ควรงดออกกำลังกายหนักประมาณ 1 เดือนหลังการรักษา
ในระยะยาว การควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาผลลัพธ์ของการดูดไขมันให้คงอยู่ได้นาน
ข้อควรรู้เพิ่มเติม:
การดูดไขมันได้ผลดีในผู้ที่ไม่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมากนัก
หากมีผิวหนังหย่อนคล้อย เช่น หลังการตั้งครรภ์หรือลดน้ำหนักมากๆ อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดยกกระชับหน้าท้องร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น