top of page
read 1

สาขาสุราษฎร์ธานี 

สาขาเกาะสมุย

หมอเติ้ง
นพ.อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ
ศัลยกรรมตกแต่ง  ว.35777

AURORA   CLINIC

image 1

“ออโรร่าคลินิก”
หนึ่งในคลินิกศัลยกรรมตกแต่งชั้นนำ จังหวัดสุราษฎร์ธานีคลินิกเฉพาะทาง ศัลยกรรมตกแต่ง เลเซอร์ และ ความงาม

ดูดไขมัน

  • Service และบริการ
  • 7 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 16 มิ.ย.


ดูดไขมัน
ดูดไขมัน

การดูดไขมัน (Liposuction) : ปรับรูปร่างเพรียว กระชับสัดส่วนอย่างมั่นใจ


การดูดไขมัน (Liposuction) ซึ่งเป็นวิธีการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีลักษณะคล้ายท่อยาว สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ และก้น ช่วยลดปริมาณไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมัน

  • การดูดไขมันเป็นการลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษา

  • ไม่สามารถแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลท์ได้โดยตรง

  • ไม่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก

  • ปริมาณไขมันที่ดูดออกในแต่ละครั้งจะถูกจำกัดเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด


ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน

  • ผู้ที่ไม่ได้มีภาวะอ้วนโดยรวม

  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานมากนัก

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดได้ยากด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร

  • ผู้ที่มีผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี ซึ่งจะช่วยให้ผิวหลังดูดไขมันเรียบเนียนและหย่อนคล้อยน้อยลง


ขั้นตอนการผ่าตัดดูดไขมัน

  1. แพทย์จะทำการวาดตำแหน่งบนร่างกายที่ต้องการดูดไขมัน

  2. ทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร ในบริเวณที่กำหนด

  3. สอดท่อเรียวยาวขนาด 2 – 5 มิลลิเมตร เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันออก

  4. ท่อดูดไขมันจะเชื่อมต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศหรือเครื่องอัลตราซาวนด์ เพื่อช่วยในการดูดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ

  5. ปริมาณไขมันที่ดูดออกจะขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณไขมันสะสม

  6. หลังการดูดไขมัน แพทย์จะทำการปิดแผล และพันผ้ารัดหรือสวมชุดกระชับบริเวณที่ทำการรักษา


ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันอาจไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น

  • อาจมีอาการชาบริเวณแผลผ่าตัด

  • ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมันปริมาณมากเกินไป (พบได้น้อยเนื่องจากแพทย์จะประเมินและควบคุมปริมาณที่เหมาะสม)

  • อาการปวดแผล (สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด)

  • การติดเชื้อหรือมีภาวะเลือดออกที่แผลผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลและสุขภาพ)



ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น


การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน

เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  1. แจ้งข้อมูลสุขภาพโดยละเอียด

    • ปัญหาสุขภาพปัจจุบันและในอดีต

    • โรคร้ายแรงหรือโรคประจำตัว

    • ประวัติการผ่าตัดและการได้รับยาระงับความรู้สึก

    • ปัญหาเกี่ยวกับฟัน (ฟันโยก, ฟันปลอม)

    • ประวัติการแพ้ยาและแพ้อาหาร

    • ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  2. การเตรียมพร้อมร่างกาย (สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรือโรคประจำตัว)

    • การเอกซเรย์

    • การตรวจเลือด

    • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

    • การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม

  3. งดยา ยาบำรุง และสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด และนำยาที่ใช้อยู่มาแจ้งแพทย์

    • ยาแก้ปวด (บางชนิด)

    • ยาแอสไพริน

    • วิตามินดี, วิตามินซี, วิตามินเอ

    • น้ำมันตับปลา

    • สมุนไพรต่างๆ

  4. งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือด

  5. งดดื่มสุรา อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด

  6. อาบน้ำและสระผมให้สะอาด

  7. งดทาเล็บ

  8. งดน้ำและอาหารตามคำสั่งแพทย์ (ในกรณีดมยาสลบ) เพื่อป้องกันการสำลัก

  9. เตรียมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อความสะดวกในการสวมใส่หลังผ่าตัด

  10. หลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน (สำหรับผู้หญิง)


การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน
การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน

การดูแลหลังการดูดไขมัน

  • ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก อาจมีอาการปวดแสบร้อน บวม และรอยช้ำ ซึ่งแพทย์จะสั่งยาแก้ปวดและแนะนำการประคบเย็น

  • ควรสวมชุดกระชับ (Pressure Garment) อย่างต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับสัดส่วน

  • อาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 เดือน และผิวหนังที่เป็นคลื่นจะค่อยๆ เรียบขึ้นภายใน 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลและคำแนะนำของแพทย์

  • ประมาณวันที่ 3 หลังผ่าตัด หากแผลแห้งและไม่มีอาการผิดปกติ สามารถอาบน้ำได้ โดยซับแผลให้แห้ง และทาแป้งบริเวณที่คัน (ห้ามทาที่แผลโดยตรง)

  • แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด ไม่ควรทายาป้องกันแผลเป็นนูน แต่สามารถนวดเบาๆ บริเวณที่มีรอยช้ำได้

  • ควรงดออกกำลังกายหนักประมาณ 1 เดือนหลังการรักษา

  • ในระยะยาว การควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาผลลัพธ์ของการดูดไขมันให้คงอยู่ได้นาน


ข้อควรรู้เพิ่มเติม:

  • การดูดไขมันได้ผลดีในผู้ที่ไม่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมากนัก

  • หากมีผิวหนังหย่อนคล้อย เช่น หลังการตั้งครรภ์หรือลดน้ำหนักมากๆ อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดยกกระชับหน้าท้องร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

Comentários


bottom of page